ปัสสาวะบ่อยเป็นสัญญาณเตือนของโรคอะไร? สาเหตุและวิธีการรักษา

สาเหตุและการรักษาอาการปัสสาวะบ่อย

อาการปัสสาวะบ่อยแม้ว่าคุณจะดื่มน้ำน้อยมาก สร้างความรำคาญและส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตอย่างมาก อย่ามองข้ามอาการนี้ แต่ควรหาสาเหตุและวิธีแก้ไขเพื่อให้มีชีวิตที่สะดวกสบายกลับมาโดยเร็ว

1. ปัสสาวะกี่ครั้งต่อวันจึงจะถือว่าปกติ?

ปัญหาความถี่ปัสสาวะเป็นเรื่องที่หลายคนให้ความสนใจ สมาคมระบบทางเดินปัสสาวะนานาชาติระบุว่าโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 6-8 ครั้ง/วันคือปกติ อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงตัวเลขอ้างอิง ความถี่ในการปัสสาวะที่แท้จริงขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น อายุ เพศ พฤติกรรมการกินอาหาร การออกกำลังกาย และโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินปัสสาวะ สารกระตุ้น เช่น คาเฟอีนและแอลกอฮอล์ สามารถเพิ่มความต้องการปัสสาวะได้ นอกจากนี้ ความไวของกระเพาะปัสสาวะก็มีบทบาทสำคัญ บางคนที่มีโรคกระเพาะปัสสาวะไวอาจปัสสาวะบ่อยกว่าปกติ แม้จะไม่ได้ดื่มน้ำมากเกินไป

ความถี่ในการปัสสาวะปกติคือประมาณ 6-8 ครั้งต่อวัน
ความถี่ในการปัสสาวะปกติคือประมาณ 6-8 ครั้งต่อวัน

2. การปัสสาวะบ่อยเกิดจากอะไร

การปัสสาวะบ่อยอาจทำให้เกิดความไม่สะดวกในชีวิตประจำวัน อาการนี้ไม่เพียงส่งผลกระทบต่อการทำงานและกิจกรรมต่างๆ เท่านั้น แต่ยังทำให้คุณรู้สึกเหนื่อยล้าและไม่มั่นใจ สาเหตุหลักที่ทำให้เกิดอาการนี้อาจเกิดจากปัญหาต่อไปนี้:

2.1. สาเหตุของการปัสสาวะบ่อยจากโรค

ปัสสาวะบ่อยอาจเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพมากมาย โดยที่พบได้บ่อยที่สุดคือ:

  • การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ: เมื่อแบคทีเรียเข้าสู่กระเพาะปัสสาวะ คุณอาจรู้สึกปวดปัสสาวะบ่อย ปัสสาวะแสบขัด ปัสสาวะไม่สุด และปัสสาวะมีกลิ่นเหม็น
  • นิ่วในไต: นิ่วในไตทำให้เกิดการระคายเคืองกระเพาะปัสสาวะ ทำให้คุณปัสสาวะบ่อย นอกจากนี้ คุณอาจรู้สึกปวดหลัง ปวดท้องน้อย และฉี่เป็นเลือด
  • กระเพาะปัสสาวะอักเสบ: กระเพาะปัสสาวะอักเสบทำให้รู้สึกปวดฉี่บ่อย ปัสสาวะแสบขัด และบางครั้งมีเลือดปนในปัสสาวะ
  • โรคเบาหวาน: ระดับน้ำตาลในเลือดสูงทำให้ร่างกายผลิตปัสสาวะมากขึ้น ทำให้คุณฉี่บ่อย โดยเฉพาะในเวลากลางคืน
  • ต่อมลูกหมากโต (ในผู้ชาย): ต่อมลูกหมากที่โตขึ้นจะไปกดทับท่อปัสสาวะ ทำให้คุณปัสสาวะลำบากและปัสสาวะบ่อย
ผู้ชายที่มีภาวะต่อมลูกหมากโตอาจปัสสาวะมาก
ผู้ชายที่มีภาวะต่อมลูกหมากโตอาจปัสสาวะมาก

2.2. สาเหตุที่ไม่ได้เกิดจากโรค

  • กระเพาะปัสสาวะบีบตัวไวเกิน (OAB): เป็นภาวะที่กล้ามเนื้อกระเพาะปัสสาวะบีบตัวมากเกินไป ทำให้รู้สึกปวดปัสสาวะบ่อยแม้ว่ากระเพาะปัสสาวะยังไม่เต็ม สาเหตุอาจเกิดจากอายุ การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน หรือปัญหาเกี่ยวกับระบบประสาท
  • การตั้งครรภ์: ในระหว่างตั้งครรภ์ มดลูกที่ขยายใหญ่ขึ้นจะไปกดทับกระเพาะปัสสาวะ ทำให้เกิดแรงกดและทำให้คุณแม่ตั้งครรภ์ฉี่บ่อยขึ้น
  • พฤติกรรมการทานอาหารและวิถีชีวิต: การดื่มน้ำมากเกินไป โดยเฉพาะในช่วงเย็น การบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กาแฟ หรืออาหารขับปัสสาวะ ก็สามารถเพิ่มความถี่ในการปัสสาวะได้
  • ยา: ยาบางชนิด เช่น ยาขับปัสสาวะที่ใช้ในการรักษาความดันโลหิตสูง อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงคือปัสสาวะบ่อย
  • ปัจจัยทางจิตใจ: ความเครียด ความวิตกกังวล หรือการนอนหลับที่ไม่เพียงพอ อาจส่งผลต่อการทำงานของกระเพาะปัสสาวะและเพิ่มความรู้สึกอยากปัสสาวะ
  • โรคอื่นๆ: นอกจากนี้ โรคบางชนิด เช่น โรคเบาหวาน การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ นิ่วในไต หรือปัญหาเกี่ยวกับระบบประสาท ก็อาจทำให้เกิดอาการปัสสาวะบ่อยได้

3. อาการปัสสาวะบ่อยในกลางวัน

บุคคลที่ถือว่าปัสสาวะบ่อยเมื่อฉี่มากกว่า 2.5 ลิตรภายใน 24 ชั่วโมง หรือปัสสาวะบ่อยกว่าปกติ นอกจากอาการปัสสาวะบ่อยแล้ว ผู้ป่วยอาจพบปัญหาต่อไปนี้:

  • ความผิดปกติของการไหลของปัสสาวะ: ปัสสาวะขาดช่วง ปัสสาวะไม่สุด กระแสปัสสาวะอ่อน หรือหยุดกะทันหัน
  • รู้สึกปวดปัสสาวะอย่างเร่งด่วน: รู้สึกอยากฉี่อย่างรุนแรงและฉับพลัน ยากที่จะกลั้นไว้
  • กลั้นปัสสาวะไม่อยู่: ฉี่รั่ว ควบคุมกระเพาะปัสสาวะไม่ได้
  • ปวดแสบขณะปัสสาวะ: รู้สึกแสบร้อน ไม่สบายตัวในระหว่างหรือหลังปัสสาวะ
  • ปัสสาวะเป็นเลือด: เลือดในปัสสาวะอาจมีน้อย (เลือดออกในปัสสาวะระดับจุลภาค) หรือมาก แม้กระทั่งมีลิ่มเลือด
  • ปัสสาวะตอนกลางคืน: ฉี่บ่อยตอนกลางคืน หรืออาจฉี่รดที่นอน
  • ปัสสาวะเล็ด: ปัสสาวะเล็ดหลังจากปัสสาวะเสร็จแล้ว
ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการปัสสาวะบ่อย
ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการปัสสาวะบ่อย

4. การรักษาอาการปัสสาวะบ่อย

เพื่อลดอาการฉี่บ่อย คุณสามารถใช้วิธีการต่อไปนี้:

ปรับพฤติกรรมการทานอาหาร:

  • จำกัดเครื่องดื่มขับปัสสาวะ: ลดปริมาณน้ำดื่มก่อนนอน หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กาแฟ ชา และน้ำอัดลม
  • หลีกเลี่ยงอาหารที่ระคายเคือง: จำกัดผลไม้ที่มีฤทธิ์เป็นกรด (ส้ม มะนาว ส้มโอ…) อาหารดอง อาหารรสจัด

การใช้ยา:

  • แจ้งให้แพทย์ทราบ: เมื่อใช้ยาใดๆ ควรแจ้งให้แพทย์ทราบเพื่อขอคำแนะนำเกี่ยวกับผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
  • หลีกเลี่ยงยาขับปัสสาวะ: หากกำลังใช้ยาขับปัสสาวะ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อเปลี่ยนแผนการรักษา

ตรวจสุขภาพเป็นประจำ:

  • ค้นหาสาเหตุ: ไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุของอาการปัสสาวะบ่อย
  • รักษาอย่างทันท่วงที: การรักษาโรคประจำตัวจะช่วยให้อาการฉี่บ่อยดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
คนไข้ที่ปัสสาวะบ่อยควรไปพบแพทย์ทันที
คนไข้ที่ปัสสาวะบ่อยควรไปพบแพทย์ทันที

โปรดทราบว่าแต่ละคนมีสภาพร่างกายแตกต่างกัน ประสิทธิผลของวิธีการข้างต้นอาจแตกต่างกันไป หากอาการไม่ดีขึ้นหลังจากใช้วิธีการข้างต้นแล้ว ควรปรึกษาแพทย์เพื่อขอคำแนะนำและการรักษาที่เหมาะสม

5. O NEO – ทางเลือกที่มีประสิทธิภาพสำหรับผู้ที่มีภาวะกระเพาะปัสสาวะบีบตัวไวเกิน

กระเพาะปัสสาวะบีบตัวไวเกินเป็นภาวะที่พบบ่อย ก่อให้เกิดปัญหามากมายสำหรับผู้ป่วย ด้วยความเข้าใจในความยากลำบากเหล่านี้ ผลิตภัณฑ์ O NEO จึงถือกำเนิดขึ้น นำเสนอทางเลือกที่ครอบคลุมและมีประสิทธิภาพ

O NEO ได้รับการวิจัยและพัฒนาโดยอิงจากกลไกการออกฤทธิ์โดยตรงกับสาเหตุที่แท้จริงของโรค ผลิตภัณฑ์นี้มีส่วนผสมจากสมุนไพรธรรมชาติ ที่ได้รับการพิสูจน์ทางคลินิกแล้วว่าสามารถลดการบีบตัวของกล้ามเนื้อกระเพาะปัสสาวะ เสริมสร้างสุขภาพของระบบทางเดินปัสสาวะ และช่วยควบคุมอาการปวดปัสสาวะอย่างเร่งด่วน

O NEO – ผลิตภัณฑ์พรีเมี่ยมเพื่อการปรับปรุงระบบทางเดินปัสสาวะ นำเข้าจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์
O NEO – ผลิตภัณฑ์พรีเมี่ยมเพื่อการปรับปรุงระบบทางเดินปัสสาวะ นำเข้าจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์

ด้วย O NEO ผู้ป่วยสามารถคาดหวังการปรับปรุงที่สำคัญได้ เช่น ลดความถี่ในการปัสสาวะ ลดอาการปวดปัสสาวะเร่งด่วน เพิ่มการควบคุมกระเพาะปัสสาวะ และยกระดับคุณภาพชีวิต ผลิตภัณฑ์ได้รับการออกแบบให้ใช้ง่าย เหมาะสำหรับผู้ป่วยหลายกลุ่ม

อย่างไรก็ตาม เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ผู้ป่วยควรใช้ O NEO ตามคำแนะนำ และควบคู่ไปกับการรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพและการใช้ชีวิตอย่างเมาะสม

0617862236