ปัสสาวะแสบขัดและคันในผู้ชายสาเหตุและวิธีการรักษา

ปัสสาวะแสบขัดและคันในผู้ชายสาเหตุและวิธีการรักษา

อาการปัสสาวะแสบขัด คัน … แม้ดูเหมือนจะเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่กลับสร้างความรำคาญให้กับผู้ชายไม่น้อย ไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน แต่อาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคร้ายแรงได้ แล้วอะไรเป็นสาเหตุของอาการเหล่านี้? และจะหยุดฝันร้ายนี้ได้อย่างไร? บทความนี้จะมีคำตอบให้กับคุณ

1. อาการปัสสาวะแสบขัด และคันในผู้ชายคืออะไร?

อาการปัสสาวะแสบขัดและคันในผู้ชาย มักรู้สึกได้จากอาการแสบร้อนบริเวณอวัยวะเพศ ร่วมกับอาการคัน ไม่สบายตัว อาการปวดแสบร้อนอาจเกิดขึ้นได้ตลอดทางเดินปัสสาวะ ตั้งแต่ต้นจนจบ และอาจเป็นอยู่นานตลอดทั้งวัน

อาการคันเกิดจากเซลล์ผิวหนังหรือเซลล์ประสาทที่เกี่ยวข้องกับผิวหนังเกิดการระคายเคือง
อาการคันเกิดจากเซลล์ผิวหนังหรือเซลล์ประสาทที่เกี่ยวข้องกับผิวหนังเกิดการระคายเคือง

อาการคันมักจะอยู่ที่บริเวณปลายองคชาตหรือภายในท่อปัสสาวะ ทำให้รู้สึกไม่สบายตัว และส่งผลต่อคุณภาพชีวิต

2. สาเหตุของอาการปัสสาวะแสบขัดและคันในผู้ชาย

2.1 สาเหตุที่ไม่ได้เกิดจากโรค

ปัสสาวะเจ็บปวดและมีอาการคันในผู้ชายเนื่องจากความเครียด ความเครียดที่ยืดเยื้อ...
ปัสสาวะเจ็บปวดและมีอาการคันในผู้ชายเนื่องจากความเครียด ความเครียดที่ยืดเยื้อ…

ในหลายกรณี อาการปัสสาวะแสบขัดและคันในผู้ชาย อาจเกิดจากสาเหตุทั่วไปที่ไม่ร้ายแรง ไม่เกี่ยวข้องกับโรคภัยไข้เจ็บ สาเหตุทั่วไปบางประการ ได้แก่

  • การรักษาความสะอาดไม่ดีพอ: การทำความสะอาดอวัยวะเพศที่ไม่ถูกวิธีหรือไม่สม่ำเสมอ อาจเอื้อให้เชื้อแบคทีเรียเจริญเติบโตได้ดี นำไปสู่การติดเชื้อและก่อให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์ต่างๆ
  • การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการใช้ชีวิต: การดื่มน้ำน้อยเกินไปหรือมากเกินไป รวมถึงการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการขับถ่ายปัสสาวะแบบกะทันหัน อาจทำให้ท่อปัสสาวะระคายเคือง นำไปสู่อาการปัสสาวะแสบขัดและคัน
  • ความเครียด ความวิตกกังวล: ความเครียดทางจิตใจที่เรื้อรังสามารถส่งผลกระทบต่อระบบประสาท ทำให้กล้ามเนื้อเรียบหดตัว และเพิ่มความรู้สึกไม่สบายตัวขณะปัสสาวะ
  • การแพ้: ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดร่างกาย สารซักฟอก หรือวัสดุของเสื้อผ้าบางชนิด อาจก่อให้เกิดอาการแพ้ ระคายเคืองต่อผิวหนังและท่อปัสสาวะ

2.2 สาเหตุที่เกิดจากโรค

หากคุณได้ลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตแล้ว แต่อาการปัสสาวะแสบขัดและคันยังไม่ดีขึ้น หรือรุนแรงมากขึ้น คุณอาจกำลังประสบปัญหาสุขภาพ สาเหตุบางประการที่อาจทำให้เกิดอาการเหล่านี้ ได้แก่ 

2.2.1 กระเพาะปัสสาวะอักเสบ

กระเพาะปัสสาวะอักเสบ คือ ภาวะที่กระเพาะปัสสาวะเกิดการติดเชื้อ มักเกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่เข้าสู่ท่อปัสสาวะ โรคนี้พบได้บ่อยและสร้างความรำคาญให้กับผู้ป่วย สาเหตุของกระเพาะปัสสาวะอักเสบ ได้แก่

  • การมีเพศสัมพันธ์: โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้หญิง การมีเพศสัมพันธ์อาจทำให้เชื้อแบคทีเรียจากช่องคลอดเข้าสู่ท่อปัสสาวะได้
  • การทำความสะอาดไม่ถูกวิธี: การทำความสะอาดอวัยวะเพศที่ไม่สะอาด เช็ดทำความสะอาดจากด้านหลังไปด้านหน้าในผู้หญิง อาจทำให้เชื้อแบคทีเรียเข้าสู่ท่อปัสสาวะได้ง่ายขึ้น
  • การใส่สายสวนปัสสาวะ: การใส่สายสวนปัสสาวะเพื่อรักษาโรคอื่นๆ อาจทำให้เชื้อแบคทีเรียเข้าสู่ท่อปัสสาวะได้
  • ปัจจัยอื่นๆ: การป่วยเป็นโรคเรื้อรัง เช่น โรคเบาหวาน ภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง นิ่วในไต ก็เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดกระเพาะปัสสาวะอักเสบได้เช่นกัน

2.2.2 กระเพาะปัสสาวะอักเสบ

ท่อปัสสาวะ หรือที่เรียกว่าทางเดินปัสสาวะ มีหน้าที่ลำเลียงปัสสาวะจากกระเพาะปัสสาวะออกนอกร่างกาย ในเพศชายท่อปัสสาวะจะไหลไปตามความยาวของอวัยวะเพศเนื่องจากตำแหน่งที่สัมผัสโดยตรงกับสภาพแวดล้อมภายนอก ท่อปัสสาวะจึงง่ายต่อการติดเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา และเกิดการอักเสบ

การถ่ายปัสสาวะอย่างเจ็บปวดและมีอาการคันเป็นสัญญาณที่พบบ่อยของโรคท่อปัสสาวะอักเสบ
การถ่ายปัสสาวะอย่างเจ็บปวดและมีอาการคันเป็นสัญญาณที่พบบ่อยของโรคท่อปัสสาวะอักเสบ

หนึ่งในสัญญาณที่ชัดเจนที่สุดของท่อปัสสาวะอักเสบคืออาการปัสสาวะแสบขัด ความรู้สึกแสบร้อนและไม่สบายขณะปัสสาวะทำให้ผู้ป่วยรู้สึกเหนื่อยล้าและส่งผลต่อคุณภาพชีวิต

2.2.3 ภาวะหนังหุ้มปลายองคชาตอักเสบ

หนังหุ้มปลายองคชาตเป็นส่วนสำคัญของอวัยวะเพศชาย มีหน้าที่ปกป้ององคชาตและช่วยในการมีเพศสัมพันธ์ อย่างไรก็ตาม หากไม่รักษาความสะอาด หนังหุ้มปลายองคชาตอาจติดเชื้อและก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพมากมายแก่ผู้ชาย

ภาวะหนังหุ้มปลายองคชาตอักเสบคือการอักเสบของหนังหุ้มปลายองคชาตและหัวองคชาต มักเกิดจากแบคทีเรีย เชื้อรา หรือปรสิต เมื่อเป็นโรคนี้ ผู้ชายมักพบอาการดังต่อไปนี้:

  • เจ็บ คัน แสบร้อน: รู้สึกเจ็บ คัน แสบร้อนบริเวณหนังหุ้มปลายองคชาตและหัวองคชาต โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อปัสสาวะหรือมีเพศสัมพันธ์
  • บวม แดง: ผิวหนังบริเวณหนังหุ้มปลายองคชาตบวมแดง อาจมีตุ่มเล็กๆ ปรากฏขึ้น
  • มีหนองไหล: อาจมีหนองไหลออกมาจากหัวองคชาต มีกลิ่นเหม็น
  • ปัสสาวะลำบาก: ปัสสาวะแสบขัด ปัสสาวะบ่อย ปัสสาวะลำบาก หรือแม้แต่ปัสสาวะเป็นเลือด
  • หนังหุ้มปลายองคชาตตีบ: ในบางกรณี ภาวะหนังหุ้มปลายองคชาตอักเสบอาจทำให้หนังหุ้มปลายองคชาตตีบ ทำให้ทำความสะอาดได้ยาก

2.2.4 โรคหนองใน

โรคหนองในเป็นโรคติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Neisseria gonorrhoeae หลังจากสัมผัสกับเชื้อแบคทีเรีย ระยะฟักตัวมักจะอยู่ที่ประมาณ 2-10 วัน แต่อาจมีบางกรณีที่ผู้ป่วยไม่มีอาการเป็นเวลานาน

โรคหนองในทำให้ปัสสาวะเจ็บปวดและมีอาการคันในผู้ชาย
โรคหนองในทำให้ปัสสาวะเจ็บปวดและมีอาการคันในผู้ชาย

เมื่อติดเชื้อหนองใน ผู้ป่วยอาจมีอาการดังต่อไปนี้:

  • ปัสสาวะแสบขัด ปัสสาวะแสบร้อน: รู้สึกแสบร้อนขณะปัสสาวะ
  • ปัสสาวะบ่อย: ต้องปัสสาวะบ่อยกว่าปกติ
  • ปัสสาวะมีหนองปน: ปัสสาวะอาจมีหนองปน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตอนเช้า
  • ปวดท้องน้อย: รู้สึกปวด ตึง บริเวณท้องน้อย
  • คัน บวม แดง บริเวณอวัยวะเพศ: บริเวณอวัยวะเพศอาจบวมแดง คัน มีแผลเล็กๆ ปรากฏขึ้น
  • มีหนองไหลจากท่อปัสสาวะ: รูท่อปัสสาวะอาจมีหนองสีเหลืองหรือสีเขียวไหลออกมา
  • เจ็บคอ: หากติดเชื้อทางปาก ผู้ป่วยอาจเจ็บคอ
  • มีไข้ อ่อนเพลีย: บางรายอาจมีไข้ต่ำๆ อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยตามร่างกาย

3. ปัสสาวะแสบขัดและคันส่งผลต่อผู้ชายอย่างไร?

หากไม่รีบรักษาอย่างถูกต้อง อาการปัสสาวะแสบขัดและคันในผู้ชาย อาจก่อให้เกิดผลกระทบร้ายแรง ส่งผลต่อสุขภาพระบบสืบพันธุ์และคุณภาพชีวิต ดังนี้

  • การติดเชื้อลุกลาม: เชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุ อาจลุกลามจากท่อปัสสาวะไปยังกระเพาะปัสสาวะ ไต และอวัยวะเพศ ทำให้เกิดการอักเสบอย่างรุนแรง
  • ภาวะมีบุตรยาก: การอักเสบเรื้อรังอาจทำลายท Vas deferens ต่อมลูกหมาก ส่งผลต่อการผลิตและการ-ลำเลียงอสุจิ ทำให้เกิดภาวะมีบุตรยากหรือมีบุตรยาก
  • ส่งผลต่อการใช้ชีวิต: อาการปัสสาวะแสบขัดและคัน ก่อให้เกิดความเจ็บปวด รำคาญ ส่งผลต่อคุณภาพการนอนหลับ การทำงาน และกิจวัตรประจำวัน
  • ภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ: ในบางกรณี การอักเสบเรื้อรัง อาจนำไปสู่ภาวะฝี หนอง ท่อปัสสาวะตีบ และอาจร้ายแรงถึงขั้นเป็นม ะเร็ง

4. วิธีการรักษาอาการปัสสาวะแสบขัดและคันในผู้ชาย

วิธีการรักษาจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสาเหตุของอาการ คุณสามารถพิจารณาวิธีการรักษาต่อไปนี้:

4.1 การรักษาโดยไม่ใช้ยา

สำหรับผู้ที่มีอาการไม่รุนแรง และยังไม่มี dấu hiệuของการติดเชื้อ สามารถลองใช้วิธีธรรมชาติ ดังนี้

4.1.1 ประคบอุ่น

เมื่อมีอาการปัสสาวะแสบและคันบริเวณอวัยวะเพศ การเกาอาจทำให้อาการแย่ลง การเกาจะทำให้ผิวหนังเกิดการบาดเจ็บ ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้เชื้อแบคทีเรียเข้ามาและทำให้เกิดการอักเสบมากขึ้น

แทนที่จะเกา คุณควรใช้วิธีการประคบร้อนเพื่อลดอาการคันและบวม วิธีทำ:

  • เตรียม: ผ้าสะอาด และ น้ำอุ่น
  • วิธีทำ: นำผ้าสะอาดชุบน้ำอุ่น บิดหมาดๆ ประคบบริเวณที่คัน 
  • เวลาทำ: ประมาณ 15-20 นาที ทำซ้ำ 2-3 ครั้งต่อวัน

4.1.2 สร้างนิสัยรักษาความสะอาด

คุณต้องสร้างนิสัยด้านสุขอนามัยที่เป็นวิทยาศาสตร์ที่สุดสำหรับตัวคุณเอง เช่น ความสะอาด
คุณต้องสร้างนิสัยด้านสุขอนามัยที่เป็นวิทยาศาสตร์ที่สุดสำหรับตัวคุณเอง เช่น ความสะอาด

เพื่อป้องกันและบรรเทาอาการปัสสาวะแสบขัดและคัน การรักษาความสะอาดบริเวณอวัยวะเพศอย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง ต่อไปนี้เป็นนิสัยในการรักษาความสะอาดที่คุณควรปฏิบัติ:

  • ทำความสะอาดเป็นประจำ: ล้างทำความสะอาดอวัยวะเพศด้วยน้ำอุ่นและสบู่สูตรอ่อนโยน ค่า pH เหมาะสม หลังจากปัสสาวะ อุจจาระ หรือมีเพศสัมพันธ์
  • เช็ดให้แห้งอย่างอ่อนโยน: หลังจากล้างทำความสะอาดแล้ว ใช้ผ้าขนหนูนุ่มๆ ซับบริเวณอวัยวะเพศให้แห้ง เพื่อป้องกันความชื้น ซึ่งเอื้อต่อการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย
  • เลือกกางเกงในที่เหมาะสม: สวมใส่กางเกงในที่ทำจากผ้าฝ้าย ระบายอากาศได้ดี เพื่อให้อวัยวะเพศแห้งอยู่เสมอ หลีกเลี่ยงการสวมใส่กางเกงในที่รัดแน่นเกินไป หรือทำจากใยสังเคราะห์
  • หลีกเลี่ยงการใช้สารทำความสะอาดที่มีฤทธิ์รุนแรง: ไม่ควรใช้สบู่หรือน้ำยาทำความสะอาดที่มีฤทธิ์รุนแรง เพราะอาจทำให้สมดุลค่า pH ตามธรรมชาติของอวัยวะเพศเสียไป

4.2 วิธีการใช้ยา

แพทย์จะสั่งยาให้เหมาะสมกับโรคแต่ละประเภทและความรุนแรงของโรค ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละโรค
แพทย์จะสั่งยาให้เหมาะสมกับโรคแต่ละประเภทและความรุนแรงของโรค ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละโรค

เมื่อมีอาการปัสสาวะแสบขัด คัน อันเนื่องมาจากโรคต่างๆ เช่น หนองใน หนังหุ้มปลายองคชาตอักเสบ ท่อปัสสาวะ กระเพาะปัสสาวะอักเสบ การรักษาด้วยยานั้นเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง วิธีการรักษาจะขึ้นอยู่กับชนิดของโรคและความรุนแรง

โรคหนองใน:

  • ยาปฏิชีวนะ: ยาปฏิชีวนะเฉพาะ เช่น ceftriaxone จะถูกสั่งจ่ายเพื่อฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของโรค
  • DHA: วิธีนี้จะช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียหนองในแท้โดยตรง ช่วยในการรักษา และลดความเสี่ยงของการกลับมาเป็นซ้ำ

หนังหุ้มปลายองคชาตอักเสบ:

  • ยาทาเฉพาะที่: ครีมฆ่าเชื้อรา ครีมสเตียรอยด์… จะถูกนำมาใช้ ขึ้นอยู่กับสาเหตุของโรค
  • การรักษาความสะอาด: การรักษาความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ การมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย ช่วยในการรักษาและป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำ
  • วิธีการอื่นๆ: ในบางกรณี อาจต้องใช้วิธีการอื่นๆ เช่น เลเซอร์ การตัดไฝ

ท่อปัสสาวะอักเสบ

  • ยาปฏิชีวนะ: ยาปฏิชีวนะกลุ่ม quinolone, macrolide, ceftriaxone ร่วมกับ doxycycline มักถูกใช้ในการรักษา

กระเพาะปัสสาวะอักเสบ:

  • ยาปฏิชีวนะ: ยาปฏิชีวนะ เช่น trimethoprim-sulfamethoxazole, amoxicillin, nitrofurantoin ช่วยต่อต้านการอักเสบ ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย และซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่เสียหาย

5. วิธีป้องกันการปัสสาวะแสบขัดและคันในผู้ชาย

เพื่อบรรเทาอาการปัสสาวะแสบขัดและคัน นอกเหนือจากการรักษาด้วยยาแล้ว คุณควรปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตดังต่อไปนี้:

  • ดื่มน้ำให้เพียงพอ: ควรดื่มน้ำ 1.5 – 2 ลิตรต่อวัน เพื่อช่วยชะล้างทางเดินปัสสาวะ ขจัดแบคทีเรียที่เป็นอันตราย
  • ไม่กลั้นปัสสาวะ: การกลั้นปัสสาวะเป็นเวลานานจะทำให้แบคทีเรียเจริญเติบโตได้ง่ายและก่อให้เกิดการติดเชื้อ ปัสสาวะทันทีเมื่อรู้สึกปวด
  • มีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย: การมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัยจะช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ
  • ใช้ชีวิตอย่างมีสุขภาพดี: รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ปกป้องร่างกายจากโรคภัยไข้เจ็บ
  • เลือกสวมใส่เสื้อผ้าที่สบายตัว: สวมกางเกงในที่ทำจากผ้าฝ้าย ระบายอากาศได้ดี หลีกเลี่ยงกางเกงที่รัดเกินไป เพื่อให้อวัยวะเพศแห้งอยู่เสมอ

6. เอกสารอ้างอิง

https://my.clevelandclinic.org/health/symptoms/15176-dysuria-painful-urination

https://www.verywellhealth.com/cause-and-treatment-of-an-itchy-urethra-in-men-49401#:~:text=Treatment%20of%20Urethritis&text=Bacterial%20causes%20are%20usually%20treated,may%20still%20be%20given%20antibiotics.&text=Certain%20strains%20of%20bacteria%20may%20be%20resistant%20to%20some%20antibiotics.

https://www.saintlukeskc.org/health-library/urethritis-men#:~:text=When%20the%20urethra%20is%20inflamed,pus%20discharge%20from%20the%20penis.

0617862236